Adrenaline Rush Lifestyle เรื่องควรรู้ ในเรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เราควรอ่านก่อนซื้อ

เรื่องควรรู้ ในเรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เราควรอ่านก่อนซื้อ

เรื่องควรรู้ ในเรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เราควรอ่านก่อนซื้อ post thumbnail image

“มอเตอร์ไฟฟ้า” นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เชื่อว่ามีการใช้งานที่หลากหลาย และ เชื่อว่าหลายคนนั้นยังมีใช้งานที่เราเห็นอยู่เสมอ ดังนั้นสำหรับการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีเรื่องที่หลากหลายที่เราจะต้องรู้ ดังนั้นในบทความนี้เราลองมาดูกันนะครับ ว่าในการใช้มอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีเรื่องอะไรที่เราจะต้องรู้บ้าง  ? มาลองดูกันดีกว่าครับว่ามีเรื่องอะไรที่เราจะต้องรู้บ้าง  

ส่วนประกอบของมอเตอร์ไฟฟ้า  

อย่างแรกเลยนั้นคือในเรื่องของ “ส่วนประกอบของมอเตอร์ไฟฟ้า” นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนนั้นยังไม่รู้นะครับ เพราะว่าหลาย ๆ คนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าในการมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง มาลองดูกันดีกว่าครับว่าส่วนประกอบของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นจะมีอะไรบ้าง  

  • สเตเตอร์ (Stator)  : เป็นส่วนประกอบ ประกอบด้วยโครงภายนอกทำหน้าที่เป็นทางเดินเส้นแรงแม่เหล็กและ ยึดส่วนประกอบอื่น ๆ ให้แข็งแรง ทำด้วยเหล็กหล่อ หรือ เหล็กเหนียว รูปทรงกระบอก  
  • ตัวหมุนหรืออาร์เมเจอร์ : มีลักษณะเป็นทุ่นทรงกระบอก ทำด้วยแกนเหล็กแผ่นบาง ๆ อัดซ้อนกันที่ผิวด้านหน้าของทรงกระบอก  

หลักการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า  

มอเตอร์ชนิดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ให้เป็น พลังงานกล  โดยมอเตอร์ จะทำงานก็ต่อเมื่อเราจ่ายกระแสไฟฟ้าตามพิกัดของมอเตอร์ ให้กับ มอเตอร์ จากนั้นมอเตอร์ก็จะทำงานตามความเร็วที่กำหนดไว้ โดยการทำงานของมอเตอร์สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลายชนิด  ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ด้วยเช่นกัน  

การดูป้ายกำกับมอเตอร์  

มอเตอร์ทุกชนิด ไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือ ขนาดใหญ่ ที่อยู่ในท้องตลาด จะมีการเขียนป้ายกำกับไว้ก่อนเสมอ เพื่อให้เราสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นในส่วนนี้เรามาดูกันดีกว่านะครับว่าป้ายกำกับของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นจะอธิบายอะไรบ้าง 

  • Output : เป็นกำลังที่มอเตอร์ทำงานได้สูงสุด รับ และ โหลดได้สูงสุด โดยกำลังในส่วนนี้จะบอกกำลังเป็นแรงม้า  
  • Volt : คือแรงดังไฟฟ้าที่ใช้กับมอเตอร์ชนิดนี้ ซึ่งปกติแล้วจะมีให้เราเห็นอยู่ 2 แบบนั้นคือ 220 ที่เราจะใช้กับไฟบ้าน และ 380 ที่เราจะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม  
  • Amp’s : ขนาดของกระแสไฟฟ้าสูงสุด ที่มอเตอร์จะสามารถทำงานได้  
  • R.P.M. : คือความเร็วรอบสูงสุดที่เพลาจะสามารถทำได้ โดยจะบอกเป็น รอบ / นาที  
  • Connection : คือรูปแบบของการต่อสายขั้วของมอเตอร์  ซึ่งการต่อสายจะมอยู่ 2 ลักษณะคือ แบบ สตาร์ หรือ แบบดาว กับแบบเดลต้า  

คำแนะนำในการเลือกซื้อ  

อีกข้อที่หลายคนนั้นกำลังจะเลือกซื้อ “มอเตอร์ไฟฟ้า”  นั้นการที่เราจะเลือกซื้อมอเตอร์ไฟฟ้าให้เหมาะสมนั้นคือ ให้เราเลือกซื้อมอเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใชงานของเราก่อนนะครับ  โดยถ้าหากว่าเราจะต้องการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่นั้นเราจะต้องดูว่ากำลังไฟ และ กำลังที่เราจะต้องการใช้นั้นมีเยอะหรือไม่ ซึ่งก่อนที่เราจะซื้อมอเตอร์ไฟฟ้านั้นเราควรศึกษาให้ดีก่อนนะครับ  

และนี้เองเป็นเรื่องที่หลายคนนั้นอาจจะยังไม่รู้ในเรื่องของ การเลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้านะครับ และ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ จากหลาย ๆ เรื่องที่เราควรรู้ก่อนที่เราจะเลือกซื้อ มอเตอร์ไฟฟ้านะครับ  

Related Post

สถานที่รับจัดงานแต่งงาน

4 สไตล์ธีมงานที่เหมาะสมกับสถานที่รับจัดงานแต่งงานในสวน4 สไตล์ธีมงานที่เหมาะสมกับสถานที่รับจัดงานแต่งงานในสวน

ถ้าเอ่ยถึงการเลือกสถานที่รับจัดงานแต่งงานในยุคสมัยนี้ นอกจากจะเลือกเรือนไทยเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานแล้ว  การเลือกสถานที่รับจัดงานแต่งงานในสวนก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากว่าช่วยในการประหยัดค่าสถานที่ไปได้จำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คู่บ่าวสาวหลายคนจะเลือกการจัดงานแต่งงานในสวน แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเลือกสถานที่จัดงานในสวนแล้วสิ่งที่ต้องมาคิดในลำดับถัดไปก็คือการเลือกธีมงานให้เข้ากับสถานที่นั่นเอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสไตล์ธีมงานที่เหมาะกับสถานที่รับจัดงานแต่งงานในสวน แนะนำ 4สไตล์ดังต่อไปนี้   1.งานแต่งงาน Style รัสติก  สำหรับการเลือกสไตล์แรกที่ได้รับความนิยมก็คือสไตล์รัสติกนั่นเอง จุดเด่นของสไตล์นี้ก็คือการเน้นความเป็นธรรมชาติของพื้นผิววัสดุ โดยเราจะเลือกวัสดุเนื้อไม้เป็นหลักแต่ไม่ต้องขัดพื้นผิวหรือทาขัดเงาให้แตกต่างจากธรรมชาติแต่อย่างใด จึงทำให้สไตล์คลาสสิคสวยงามโดดเด่นทักทายกันเวลา นอกจากนี้ยังเปลี่ยนบรรยากาศในงานให้ดูอบอุ่น สวนให้แขกในงานผ่อนคลายอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างของที่สามารถประยุกต์ใช้ style รัสติกได้อย่างไม่ขัดตาก็คือเชิงเทียน แก้วน้ำ ป้ายชื่อของผู้แต่งงาน เป็นต้น   2.งานแต่งงานสไตล์วินเทจ  สำหรับสไตล์งานแต่งอันดับต่อไปที่ได้รับความนิยมเป็นระยะหลังๆก็คือสไตล์วินเทจนั่นเอง คำว่าวินเทจหมายถึงบ่มให้สวยงามซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาฝรั่งเศส จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังๆมานี้คนจะนิยมสไตล์วินเทจมากกว่าสไตล์อื่น เพราะสามารถประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ก่อนหน้านี้มาตกแต่งในงานได้ ถือเป็นการประหยัดงบประมาณงานแต่งได้อย่างลงตัว แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไว้ด้วยความมีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์   3.งานแต่งงานสไตล์เรโทร  เมื่อเอ่ยถึงสไตล์เรโทรบางคนอาจสงสัยว่าเหมือนหรือแตกต่างกับสไตล์วินเทจอย่างไร แท้จริงแล้วสไตล์เรโทรคือการทำซ้ำแต่ให้เหมือนแบบเดิม หรือจะเรียกว่าการเลียนแบบก็ได้ จุดเด่นของสไตล์เรโทรคือสามารถกำหนดธีมงานได้อย่างชัดเจน

ประกัน Bigbike

รู้หรือไม่รถบิ๊กไบค์ก็ทำประกันได้รู้หรือไม่รถบิ๊กไบค์ก็ทำประกันได้

หากเปรียบสิ่งของสองอย่างที่ต้องมาคู่กันหรือขาดจากกันไม่ได้เลยนั้นคงจะมีของสิ่งนี้อยู่ในนั้นด้วย นั่นคือ รถกับประกันรถ เพราะประกันรถนั้นได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานควบคู่ไปกับรถ นั่นหมายความว่าในการขับขี่รถทุกประเภทล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง แต่ประกันรถนั้นเป็นสิ่งที่คอยช่วยผลักดันความเสี่ยงออกไปจากตัวเรา ซึ่งประกันรถในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงแค่ประกันรถยนต์เท่านั้น เพราะรถประเภทอื่นก็สามารถทำประกันรถได้เช่นกัน อย่างเช่นรถประเภทนี้นั่นคือ รถ Bigbike นั่นเอง โดยรถ Bigbike นั้นก็มีประกัน Bigbike เหมือนกับรถยนต์เช่นกัน ซึ่งประกัน Bigbike นั้นความคุ้มครองก็จะคล้ายกับรถยนต์นั่นคือจะคุ้มครองค่าซ่อมรถที่เอาประกัน ซ่อมรถคู่กรณี , คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งคนขับและคนซ้อน อีกทั้งมีเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในการถูกดำเนินคดีอีกด้วย ซึ่งประกัน Bigbike ก็แบ่งย่อยออกได้อีกหลายประเภท โดยเราจะมาดูกันว่าประกัน Bigbike นั้นมีประเภทอะไรบ้าง  ประเภทของประกันรถบิ๊กไบค์  ประเภทแรกคือ ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 1 โดยประกันประเภทนี้จะคุ้มครองการชน การลื่นไถล รถหาย รวมไปถึงไฟไหม้รถและภัยธรรมชาติต่าง ๆ โดยจะคุ้มครองค่าเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและรถของเรารวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลต่อบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีและตัวผู้ขับขี่ด้วย ซึ่งประกันประเภทนี้จะเพิ่มความคุ้มครองแนบท้ายค่ารักษาพยาบาล ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันตัวผู้ขับขี่ให้ด้วย   ประเภทต่อมาคือ ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 3+ โดยประกันประเภทนี้จะคุ้มครองเฉพาะการชนแบบมีคู่กรณีที่เป็นทางบกเท่านั้น จะไม่คุ้มครองการลื่นล้มหรือลื่นไหลเอง และการชนแบบไม่มีคู่กรณรวมไปถึงไม่คุ้มครองกรณีรถหาย โดยการคุ้มครองนั้นจะคุ้มครองค่าเสียหายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีและค่ารักษาพยาบาลต่อบุคคลภายนอก และคุ้มครองแนบท้ายค่ารักษาพยาบาล ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันตัวผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน  ประเภทสุดท้ายคือ ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 3 โดยประกันประเภทนี้จะคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้นและจะต้องมาจากการชน โดยการคุ้มครองนั้นจะคุ้มครองค่าเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและค่ารักษาพยาบาลบุคคลภายนอก และความคุ้มครองแนบท้ายค่ารักษาพยาบาล ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันตัวผู้ขับขี่เช่นเดียวกันกับประกันชั้น 1 และ 3+  โดยในการเลือกทำประกันรถบิ๊กไบค์ว่าจะทำประเภทไหนนั้นขึ้นอยู่กับผู้เอาประกันว่าต้องการความคุ้มครองแบบไหน แต่หากจะให้ดีที่สุดก็คงเป็นประกันชั้น 1  

ประกันภัย

ไม่ควรพลาดการเลือกซื้อความคุ้มครอง ประกันภัย 2+ไม่ควรพลาดการเลือกซื้อความคุ้มครอง ประกันภัย 2+

สำหรับรูปแบบประกันภัย 2+ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบความคุ้มครองที่หลายๆคนเลือกซื้อและอาจจะเลือกซื้อมากกว่ารูปแบบประกันภัยชั้น 1 ด้วยซ้ำเนื่องจากมีราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่าและรูปแบบความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันภัย 2+  ก็ไม่ได้แตกต่างจากประกันชั้น 1 มากนักดังนั้นเรียกว่าหากคุณกำลังมองหารูปแบบความคุ้มครองให้กับชีวิตและทรัพย์สินของตัวผู้ขับขี่อยู่แล้วก็สามารถเลือกซื้อประกันภัย 2+ ให้กับตัวเองได้ยิ่งถ้าเข้ามาเลือกซื้อประกันภัยเหล่านี้กับเว็บมิสเตอร์คุ้มค่าของเราเรายังมีบริการเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันที่จะช่วยทำให้คุณจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันได้ถูกลงแถมมีสิทธิพิเศษดีๆมากมายที่จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ตอบโจทย์การใช้งานตอบโจทย์ความต้องการของตัวผู้เอาประกันมากที่สุดถ้าคุณพร้อมแล้วที่จะเลือกซื้อรูปแบบประกันภัย 2+  หนึ่งรูปแบบประกันภัยที่คุณสนใจสามารถเข้ามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับความคุ้มครองที่คุณจะได้รับข้อยกเว้นความคุ้มครองรวมถึงราคาเบี้ยประกันของแต่ละรูปแบบประกันได้ที่หน้าเว็บหรือจ่ายของเราก่อนเลย ความคุ้มครองที่คุณจะได้รับจากประกันภัย 2+ แน่นอนว่ารูปแบบความคุ้มครองที่คุณจะได้รับจากประกันภัย 2+ แม้จะน้อยกว่าประกันชั้น 1 แต่ก็นับว่าคุ้มค่าคุ้มราคากับเบี้ยประกันที่คุณจะต้องจ่ายในแต่ละวันโดยในเบื้องต้นในส่วนของชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันจะยังคงได้รับรูปแบบความคุ้มครองประกันภัย 2+ อย่างครบถ้วนรวมถึงบุคคลภายนอกก็ยังคงได้รับการดูแลตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย 2+  ที่คุณได้เลือกซื้อนอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนรถยนต์ไฟไหม้รถยนต์ถูกขโมยที่จะยังคงได้รับรูปแบบความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย 2+ ที่คุณได้เลือกซื้อแต่ถ้าผู้เอาประกันต้องการเพิ่มความคุ้มครองในด้านใดก็สามารถเลือกซื้อกรมธรรม์เสริม เพื่อที่จะให้รูปแบบความคุ้มครองประกันภัย 2+ เป็นรูปแบบประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการและความกังวลของผู้เอาประกันได้มากขึ้น ในส่วนของช่องทางการเลือกซื้อประกันภัย